Air Purifier: รีวิว AirBot เครื่องฟอกอากาศ ดีไซน์กิ๊บเก๋

กระแสฝุ่นจิ๋วกำลังอินเทรนด์

เราต้องไม่ตกเทรนด์แม้จังหวัดที่เราอยู่ (ภูเก็ต) จะอากาศดี๊ดี

เหตุผลแรกที่จะซื้อเพราะรู้สึกว่าฝุ่นในบ้านเยอะมาก บ้านก็ห่างถนนพอสมควรแต่ทุกเย็นลองถูพื้นดูก็พบว่าผ้าเช็ดพื้นดำมากๆ ในห้องนอนก็มีฝุ่นผ้าจากชุดเครื่องนอน สังเกตเวลาสะบัดผ้าตอนเช้าแล้วแดดส่องจะเห็นมวลมหาชนฝุ่นลอยเต็มเลย เวลาล้างแอร์ก็ฝุ่นหนามาก

เอาจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นขนาดนั้นแต่หาเรื่องลองนั่นแหละ

ทีนี้ก็ดูหลายยี่ห้อมาก พี่ๆ เพื่อนๆ มิตรสหาย ช่วยแนะนำกันหลายยี่ห้อเลย ตั้งใจจะลองอีกสองสามยี่ห้อ 

คราวนี้ นิสัยคนช้อปปิ้งเข้าสิง ความคุ้มค่าต้องมาก่อน เข้าๆ ออกๆ หลายยี่ห้อ หลายเว็บ ไปเจอเข้ากับ AutoBot อยากได้หุ่นยนต์ทำความสะอาดพอดี

เอ๊า คิดว่าเสียน้อยเสียยาก จัดไป Strom II โปรแถม AirBot ถถถถถ เหยื่อโปรโมชั่นคือเรานี่แหละ สองอย่างเหมาที่ 17,900 ทางเราคิดว่าน่าจะคุ้ม (มั้ง)

เข้าเรื่องเสียที Strom II ยังไม่ได้ของ แต่ AirBot (ของแถม) ส่งมาก่อน ก็ลองเลย




 หน้าตาจัดว่าผู้ดีมากมายสำหรับเรา วางแล้วรู้สึกเป็นของแต่งบ้านได้เลย วางได้หลายรูปแบบ สวยดีนะ

ขนาดเล็ก ไม่หนัก อุ้มไปมาได้

ขนาดพื้นที่ฟอกอากาศที่แนะนำคือห้องขนาดไม่เกิน 33 ตรม. ก็พอดีห้องนอน แต่ตัวบ้านไม่น่าเหมาะ

การใช้งานง่าย คู่มืออ่านเข้าใจง่าย ไฟติดดีชัดเจน เปิดปุ๊บก็เขียวตามระเบียบ อากาศภูเก็ตดีงาม

มีช่วงเช้า เห็นไฟจากสีเขียวเป็นสีม่วง ว่าแล้วมาจากอะไร พาเพลินตดกับฉี่ เราได้กลิ่นเหม็น ไม่อยากเชื่อ เครื่องเปลี่ยนสีจากเขียวเป็นม่วงประมาณสองนาทีก็เข้าสู่สภาวะเดิม มัน Detect กลิ่นได้เว้ยเฮ้ยย ฉลาดมากลูก!!

ส่วนอะไหล่ ซึ่งเรากังวล ถามแล้วเปลี่ยนทุก 2 ปี สองชิ้น ครั้งละราวสองพันบาท ก็ถือว่าโอแหละ ไม่แพงจนรับไม่ได้








ถ่ายกล่องให้ดู สินค้ารับประกันหนึ่งปีครึ่ง

โดยรวมชอบนะ แต่ก็นั่นและ ในเรื่องประโยชน์การใช ้เอาจริงๆ มันก็ไม่จำเป็นหรอก ฮาาาา อากาศไม่ได้แย่อะไรเลย 

อุปทานว่าดีมันก็ต้องดีเน้อะ เผื่อใครสนใจนะ ขายแยกราคา 9,900 แต่ของเราแถมมากับหุ่นล่ะ

ช่วงนี้เห่อ เปิดทุกคืน

Comments